เครื่องกรองที่ใช้กันทั่วไปในระบบผลิตน้ำประปา ส่วนใหญ่เป็นแบบเครื่องกรองทรายเร็ว ซึ่งเครื่องกรองจะใช้ได้จนกว่าไม่สามารถกรองอนุภาคความขุ่นได้อีกต่อไป เมื่อถึงขั้นนี้แล้วจำเป็นจะต้องมีการล้างเครื่องกรอง ซึ่งจะทำได้โดยปล่อยให้น้ำใสสะอาดไหลย้อนจากก้นเครื่องขึ้นมาข้างบน อนุภาคความขุ่นที่ติดค้างอยู่บนสารกรองก็จะถูกน้ำพัดพาออกไปพร้อมกับน้ำล้าง
ข้อเสียที่สำคัญของเครื่องกรองแบบกรองเร็วอยู่ที่ ไม่สามารถใช้ประโยชน์ จากสารกรองได้เต็มที่กล่าวคือทั้งๆที่ชั้นทรายลึกประมาณ 60 ซม. แต่ใช้ประโยชน์ได้เพียง 5-8 ซม. เท่านั้น ทั้งนี้เป็นผลจากการเรียงตัวของเม็ดทรายหลังจากล้างเครื่องกรอง
เนื่องจากเม็ดทรายไม่ได้มีขนาดสม่ำเสมอเพียงขนาดเดียว ดังนั้น ภายหลังการล้างเครื่องกรอง ชั้นทรายซึ่งขยายตัวสูงขึ้นในระหว่างการล้างเครื่องกรองก็จะกลับคืนตัว เม็ดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าเม็ดเล็กก็จะตกลงก้นถังก่อน ทำให้การเรียงตัวของชั้นทรายเป็นไปในลักษณะที่มีทรายเม็ดละเอียดอยู่ข้างบนและเม็ดหยาบหรือใหญ่อยู่ข้างล่าง ขนาดของช่องว่างระหว่างเม็ดทรายจะค่อยๆ ใหญ่ขึ้นจากข้างบนลงข้างล่างของชั้นกรองจะเห็นได้ว่าอนุภาคความขุ่นที่ผ่านชั้นบนสุดของเครื่องกรองได้แล้ว ก็มีโอกาสอย่างมากมายที่จะลอดผ่านชั้นกรองที่อยู่ใต้ลงมาได้ง่าย จากการทดลองพบว่า ความลึกที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ของชั้นกรอง มีเพียง 5-8 ซม. เท่านั้น
การที่จะให้สารกรองเรียงตัว โดยมีสารกรองขนาดใหญ่อยู่ข้างบน และขนาดเล็กอยู่ข้างล่างนั้น จำเป็นจะต้องใช้สารกรองหลายชนิดที่มีขนาดและความถ่วงจำเพาะตรงข้ามกัน สารกรองที่จะอยู่ข้างบนจะมีขนาดใหญ่กว่า แต่ต้องมีความถ่วงจำเพาะน้อยกว่าสารกรองที่อยู่ข้างล่างซึ่งมีขนาดเล็กกว่า การที่เป็นเช่นนี้ เพราะต้องการให้สารกรองขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างบนมีน้ำหนักเบากว่าสารกรองต่างชนิด ที่อยู่ข้างล่างซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ดังนั้น ภายหลังจากการล้างเครื่องกรอง สารกรองเม็ดใหญ่แต่เบากว่าจะอยู่ข้างบน และสารกรองเม็ดเล็กแต่หนักกว่าจะอยู่ข้างล่างเพราะตกลงสู่ก้นเครื่องกรองได้เร็วกว่า
Multimedia Filtration System
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือ ปรึกษาการออกแบบระบบได้
Email : info@ttytech.com
Tel : 086-891-9868